ดูแลอาหารผู้ป่วย สำหรับผู้ที่ต้องผ่าตัด ผู้ที่จะผ่าตัดดังกล่าวข้างต้น ร่างกายจะต้องการสารอาหารเฉพาะทางเป็นพิเศษ ซึ่งแพทย์วิจัยค้นพบว่า หากได้รับสารอาหารที่เหมาะสมก่อนและหลังการผ่าตัด จะทำให้แผลหายเร็ว ลดการติดเชื้อ ลดค่าใช้จ่ายเพราะลดจำนวนวันที่นอนโรงพยาบาลได้ ซึ่งรวมไปถึงลดอัตราการเสียชีวิตได้ หรือในรายที่ผ่าตัดฟัน อาจช่วยให้แผลหายเร็ว กลับมากินอาหารปกติได้เร็วขึ้น จึงถือเป็นวิทยาการใหม่ๆ ที่ช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยอาหาร
ผู้ที่ต้องผ่าตัด
1. ผ่าตัดใหญ่ เช่น ผู้ที่ผ่าตัดหัวใจ ผ่าตัดมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งศรีษะและคอ มะเร็งเต้านม
2. ผ่าตัดไม่ใหญ่แต่มีผลกระทบกับการกินอาหาร เช่น ผ่าฟันกราม ผ่าฟันคุด ที่หลังผ่าตัดจะกินอาหารลำบาก
เมื่อต้องผ่าตัด ต้องระวังอะไร?
เมื่อมีการผ่าตัด ร่างกายจะเกิดภาวะอักเสบและมีการบวมเกิดขึ้น (คล้ายกับเมื่อเราเป็นแผลมีดบาด รอบ ๆ แผลจะบวมขึ้นมา) ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติเพื่อกำจัดเชื้อโรค ในภาวะนี้หากไม่ได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม ภูมิคุ้มกันจะตกลง กล้ามเนื้อจะถูกสลายมาใช้ ร่างกายจะอ่อนแรง และฟื้นตัวช้า
ในระยะที่ภูมิคุ้มกันตกนี่เอง ที่อาจมีการติดเชื้อได้ง่าย มีงานวิจัยพบว่าโอกาสติดเชื้อจะต่างกันไปตามสภาวะสุขภาพแต่ละคน แต่ภาพรวมคือมีโอกาสติดเชื้อสูงถึง 30-50% ดังตารางด้านล่าง
ผู้ที่ต้องผ่าตัด โอกาสติดเชื้อ
คนปกติ ที่ได้รับสารอาหารพอเพียง 30%
น้ำหนักมาก ( BMI 25 – 30 ) 35%
อ้วน ( BMI >30 ) 50%
ผ่าตัดหัวใจ 55%
สารอาหารที่ถูกต้อง ดูแลผู้ที่จะผ่าตัดได้
สมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งยุโรป (ESPEN- European Society for Clinical Nutrition and Metabolism) สนับสนุนโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วหลังการผ่าตัด โดยมี 2 กลุ่มสารอาหารสำคัญดังต่อไปนี้
1.โปรตีนสูง
โปรตีนเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง และเนื้อเยื่อต่างๆ รวมทั้งเซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว ดังนั้นการได้รับโปรตีนสูง จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี ส่งผลให้แผลหายเร็ว (บางท่านเรียกว่า แผลสวย เชื่อมสนิทเร็ว) รวมไปถึงลดอัตราการเสียชีวิตได้ จึงเป็นแนวทางใหม่ที่แพทย์ยุคใหม่ มักจะเสริมโปรตีนให้สูงในอาหารสำหรับผู้ที่ต้องผ่าตัด
2. สารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน (Immunonutrition)
คือ สารอาหารที่มีผลงานวิจัยว่า ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย หรือลดการอักเสบได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดเวลาที่ต้องนอนโรงพยาบาลได้
สารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันที่ควรรู้จักมี 3 ชนิดดังนี้
1. อาร์จีนีน
คือ กรดอะมิโนจำเป็นยามเจ็บป่วย ช่วยเพิ่มจำนวนและเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดขาว (lymphocyte) และช่วยสมานแผลผ่าตัดเร็วขึ้น
2. ไรโบนิวคลีโอไทด์
คือ ส่วนประกอบของสารพันธุกรรม (DNA/RNA) ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ลำไส้และเซลล์เม็ดเลือดขาว จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย
3. โอเมก้า 3
ช่วยลดการผลิตสารกระตุ้นการอักเสบ (pro-inflammatory cytokine) ช่วยควบคุมการอักเสบในร่างกาย
ผลงานวิจัยในกลุ่มผ่าตัดมะเร็งลำไส้ มะเร็งศรีษะและคอ เมื่อกินอาหารเสริมที่มีทั้งโปรตีนสูง และมีสารเพิ่มภูมิคุ้มกัน 3 ชนิด หรือเรียกว่า “อาหารสูตรที่มี IMPACT” จะช่วยให้
1. ลดการติดเชื้อได้ถึง 51%
2. ลดจำนวนวันที่ต้องอยู่โรงพยาบาล 2-3 วัน